Jaybird หูฟังไร้สาย ได้ประกาศเปิดตัว Jaybird Run ในรูปแบบหูฟังไร้สายอย่างแท้จริงสำหรับนักวิ่ง Jaybird ทำการออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาสบายเพื่อป้องกันการกระเด็นหลุดจากหูในขณะออกกำลังกายได้อย่างดีสำหรับหูฟังตัวใหม่นี้ และยังสามารถที่จะปรับแต่ง EQ และเสียง mids และ highs ได้เองอีกอีกด้วย

Jaybird หูฟังไร้สาย ได้สังเกตว่า ในระหว่างทำการทดสอบกลุ่มคนที่ใช้ชุดหูฟังไปกับการวิ่ง หลายครั้งที่หูฟังไม่เคยหลุดออกจากหูเลย ซึ่งแปลว่าน้ำหนักอยู่ในระดับที่พอดี และสามารถยึดกับหูได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Jaybird Run ยังได้รับการพัฒนาร่วมกับนักวิ่งที่ดีที่สุดในโลกเพื่อช่วยในการสร้างหูฟังแบบไร้สายที่ดีที่สุดสำหรับนักวิ่งอีกด้วย

Jaybird Run ยังมีเคล็ดลับหูฟังที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากหูของทุกคนไม่ได้มีขนาดเท่ากัน Jaybird จึงต้องการให้แน่ใจว่าJaybird Run จะพอดีกับหูของทุกคนจึงได้ทำการออกแบบมาให้ขนาดพอดี และใช้งานได้สะดวกสบายสำหรับคนออกกำลังกาย

หูฟังไร้สายนี้มีการใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 4 ชั่วโมง Jaybird Run จะมาพร้อมเคสเก็บหูฟังที่สามารถชาร์จไฟได้ในตัว ซึ่งหากมีแบตเตอรี่ในตัวจะสามารถชาร์จได้ และสามารถใช้งานได้เพิ่มได้อีกสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง ให้ผู้ใช้งานได้ 12 ชั่วโมง และ Jaybird Run สามารถชาร์จผ่านสาย USB ขนาดเล็กได้ และใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการชาร์จ Jaybird Run แบบเต็มรูปแบบ

Jaybird ใช้เทคโนโลยีบลูทูธแบบใหม่ล่าสุดเพื่อสร้างเสียงที่ดีที่สุดให้กับหูของคุณด้วย สามารถสร้างเสียงที่เต็มไปด้วยเสียงทุ้ม และให้เสียงที่ดังมาก 

Jaybird ได้ปรับปรุงแอพพลิเคชั่นใหม่อีกด้วย โดยการเปลี่ยนชื่อจาก Jaybird My Sound เป็น Simply Jaybird ด้วยแอพพลิเคชั่นนี้สามารถปรับการตั้งค่า EQ ด้วยตัวฟังก์ชั่นที่มีได้ และสามารถสร้างเสียงที่เป็นของตัวคุณเองได้ด้วยการปรับค่าเสียงต่ำสุด mids และ highs ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ Jaybird ได้รวมเพลย์ลิสต์จาก Spotify มาไว้ให้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ผู้ใช้งานนั้นมีตัวเลือกในการฟังเพลงได้มากยิ่งขึ้น สุดท้าย Jaybird ยังรองรับ Siri และ Google Assistant อีกด้วย ซึ่งในหูฟังด้านซ้ายคุณสามารถแตะ earbud และเริ่มต้นพูดคุยกับ Google Assistant หรือ Siri เพื่อดูสภาพอากาศ ปิดไฟที่บ้าน หรือแม้แต่ส่งข้อความไปให้เพื่อนของคุณก็ยังสามารถทำได้ และหูฟังด้านขวามีปุ่มที่สามารถใช้เล่น หรือหยุดการทำงานของหูฟังได้